วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

สรรพคุณบีมอรร์พลัส DAXIN

Be More Plus DAXIN
คืนความเป็นชายได้อย่างมั่นใจ Be More Plus สรรพคุณองค์รวมในการดูแลสุขภาพของท่านชาย • เสริมความจำและดูแลสมอง : ช่วยบำรุงเซลล์สมองทั้งเด็กและผู้สูงวัย • เสริมสมรรถภาพทางเพศ : ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวปรับสมดุลฮอร์โมนและอารมณ์ • สร้างกล้ามเนื้อและลดไขมัน : ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในร่างกาย และลดระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ • เสริมสร้างการทำงานของหัวใจ : ช่วยให้ผนังหัวใจด้านซ้ายหนาตัวและแข็งแรงขึ้นยืดหยุ่นได้ดีขึ้น • ปรับสมดุลธาตุทั้ง4 ของร่างกาย : โดยคุณสมบัติของสารสกัดในสมุนไพรชนิดต่างๆ(ตับ,ไต,หัวใจ,ม้าม,ปอด) • ควบคุมการทำงานต่อมไร้ท่อ : ปรับธาตุทั้ง 4 ของร่างกายและเสริมสร้างพลังงาน เสริมธาตุที่ขาดในร่างกาย • ช่วยเพิ่มสมาธิ ลดอาการเครียดต่างๆ สามารถควบคุมตัวเองได้อย่างคนปกติเหมือนในวัยหนุ่มสาว • ช่วยทำให้การนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพ : ทำให้ร่างกายหลั่งสารสำคัญ โกรทฮอร์โมน ขึ้นมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพและสารเอ็นโดฟิน (สารแห่งความสุข) เมื่อตอนที่หลับสนิท • ช่วยเสริมมวลกระดูกให้แกร่ง : ลดอาการชาและนิ้วล็อคที่เกิดขึ้นกับร่างกายสำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย• ช่วยบำรุงตับและไต : ปรับการทำงานของตับและไต และช่วยป้องกันการเกิดโรคไวรัสตับอักเสบ • เพิ่มกล้ามเนื้อและลดไขมัน : ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในร่างกาย • ช่วยเรื่องการนอนหลับ : ควบคุมประสาทส่วนกลางปรับสมดุลเซลล์สมองลดความเครียดสามารถนอนหลับได้สนิท • ช่วยทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างเต็มที่ : ลดไขมันที่สะสมบริเวณพุง,ต้นแขน, ต้นขาและหน้าท้อง ฯลฯ • ลดปัญหาผมร่วง ผมหงอกก่อนวัย : กระตุ้นเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณรากผมให้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการเจริญของเส้นผม โดยการปรับภูมิคุ้มกันในร่างกาย เลขที่ อย. 10-1-06453-1-0040 วิธีรับประทาน : รับประทานก่อนนอนวันละ 2 แคปซูล

ติดต่อเรา

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

โครงการบริจากเห็ดหลินจือDAXIN ฟรีตลอดชีวิตให้ผู้ป่วยยากไร้มะเร็งปอด จังหวัดยะลา




โครงการบริจากเห็ดหลินจือDAXIN ฟรีตลอดชีวิตให้ผู้ป่วยยากไร้มะเร็งปอด จังหวัดยะลา

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2558
กองทุน DIC ได้แจ้งประกาสหาผู้ยากไร้ที่ป่วยเรื้อรัง
โดยประกาสว่า

"ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์จาก กองทุน DIC DIC จะทำการบริจาคเห็ดหลินจือ(ฟรี) ฟรี ให้ผู้ป่วยยากไร้ 1 ราย หากเพื่อนๆ รู้จักหรืออยากแนะนำผู้ป่วยยากไร้ให้กับ DIC 1.แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับโรค ระยะเวลาที่ป่วย อายุผู้ป่วยและสถามภาพความยากไร้ 2.แจ้งเบอรติดต่อของญาติหรือของผู้ป่วย 3.ถ้าเป็นผู้ป่วยยากไร้ใน จังหวัดปัตตานี จะรับพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ 4.ทีมงานจะพิจารณาตามหลักการและเหตุผล 5.ผู้ป่วยที่ผ่านการพิจรณา จะไร้รับรับเห็นหลินจือฟรีจนกว่าจะหายจากโรคที่ป่วย จึงแจ้งมาเพื่อทราบ ขอบคุณครับ Nasron DIC (ผู้ดูแลกองทุน)"

ในวันเดียวกัน คุณ Ya Randa (ใส่มวกขาว) ได้แจ้งขอความช่วยเหลือผู้ยากไร้หญิง ป่วยเป็นมะเร็งปอดระยะ 4
fy'ouh "สลาม คับ ผม นายซาการียา อาแซบากา รหัสสมาชิก 601680 อยู่ภายใต้สายงานใหญ่ของ DD อิสมาแอ-ตอยยีบ๊ะ อาแวกะจิ และ DD อุเทศ อิบราฮิม มีผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ระยะที่4แล้ว ได้ฉีดคีโมแล้ว 1 ครั้ง ผมก็ได้แนะนำเห็ดหลินจือ6สายพัณธ์ ของบริษัทแด๊กซินของเรา ผู้ป่วยก็ได้ทานไป10ชุด 200บาท. หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทานอีกเนื่ิองจากฐานะยากจน ส่วนสามีก็เป็นอัมพฤษ ทำงานไม่ได้ ส่งสารมากๆครับ ที่อยู่ หมู่ 8 บ้านรานอ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา 95130 ช่วยรับพิจารณาด้วยนะครับ อายุของผู้ป่วย ประมาณ 47-48 ปีครับ ขอบคุณมากๆครับ ช่วงอายุเป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและประเทศชาติ หญิงครับ 098-6798472 เบอของลูกผู้ป่วย ชื่อ แอเซาะห์ ครับ"

ผ่านไป 1 ชั่วโมง ทีมงาน DIC ได้โทร.ติดต่อสอบถามข้อมูลจากลูกของผู้ป่วยตามที่คุณ Ya Randa ได้ให้ข้อมูลกับทีมงาน และได้ให้เวลากับครอบครัวผู้ป่วยได้ปรึกษาหารือ 3 วันเพื่อที่จะตัดสินใจว่าจะทานเห็ดหลินจือแด๊กซินหรือเปล่า
วันที่ 28 ต.ค. 2558 ทางครอบครัวของผู้ป่วยได้ตอบตกลง ทางทีมงาน DIC ก็เลยส่งเห็ดหลินจือ DAXIN ไปที่บ้านของผู้ป่วย ***และจะส่งไปทุกๆ เดือน

*** ตามงบประมาณมีในกองคลังการเงิน DIC

ขอขอบคุณยอดซื้อผ่าน เฟสบุ๊ก ณัศรน แวนุเซ็ง, กลุ่มกำลังใจต้านมะเร็ง, เพจ "DIC เรื่องเล่าที่น่าสนใจฯ", เพจ "DIC กองทุนผู้ยากไร้ที่ป่วยเรื้อรัง 
กองทุน DIC ได้รับค่าลิขสิทธิ์จากยอดซื้อของท่านประมาณ 5.5%

สนในสินค้าเพื่อสมทบทุน

เห็ดหลินจือและสรรพคุณ

เห็ดหลินจือ (อังกฤษLingzhi) เป็นยาจีน (Chinese traditional medicine) ที่ใช้กันมานานกว่า 2,000 ปี นับตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้เป็นต้นมา เห็ดหลินจือเป็นของหายากมีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน และได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณ “เสินหนงเปินเฉ่า” ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ที่สุดของจีนมีคนนับถือมากที่สุด ได้กล่าวไว้ว่า เห็ดหลินจือเป็น “เทพเจ้าแห่งชีวิต” (Spiritual essence) มีพลังมหัศจรรย์ บำรุงร่างกายใช้เป็นยาอายุวัฒนะในการยืดอายุออกไปให้ยืนยาว ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และยังสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้อย่างกว้างขวาง ชาวจีนโบราณต่างยกย่องเห็ดหลินจืออย่างเหนือชั้น ว่าดีที่สุดในหมู่สมุนไพรจีน นอกจากจะมีสรรพคุณเหนือชั้นกว่าแล้วยังปลอดภัยไม่มีพิษใด ๆ ต่อร่างกาย

สรรพคุณ[แก้]

เห็ดหลินจือ
ในสมัยโบราณ กล่าวกันว่า เห็ดหลินจือทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ให้พลังชีวิตมากขึ้น ใช้บำรุงร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ทำให้มีกำลัง ทำให้ความจำดีขึ้น ทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ชัดเจนดีขึ้น ส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสีหน้าแจ่มใส ชะลอความแก่ ส่วนสรรพคุณอื่นๆที่ได้รวบรวมไว้ได้แก่ รักษาและต้านมะเร็ง รักษาโรคตับ ความดันโลหิตสูง ขับปัสสาวะ ปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำ ภาวะมีบุตรยาก การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคภูมิแพ้ โรคประสาท ลมบ้าหมูเส้นเลือดอุดตันในสมอง อัมพาต อัมพฤกษ์ ปวดเมื่อย ปวดข้อ โรคเกาต์ โรคเอสแอลอี เส้นเลือดหัวใจตีบ ตับแข็ง ตับอักเสบ ปวดประจำเดือน ริดสีดวงทวาร อาหารเป็นพิษ แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ บำรุงสายตา และความเชื่อดังกล่าว ยังคงสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
เห็ดหลินจือได้ถูกบันทึกไว้ว่า มีขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมาก กว่า 100 สายพันธุ์ และสำหรับสายพันธุ์ที่นิยมมีสรรพคุณทางยาดีที่สุดคือ กาโนเดอร์ม่า ลูซิดั่ม (Ganoderma lucidum) หรือสายพันธุ์สีแดง
เห็ดหลินจือมีสารโพลีแซคคาไรด์ ซึ่งเป็นสารยับยั้งอาการต่างๆ ข้างต้น เห็ดหลินจือในแต่ละชนิดจะมีปริมาณสารโพลีแซคคาไรด์ในปริมาณที่แตกต่างกัน แต่สายพันธุ์ที่มีสารโพลีแซคคาไรด์มากที่สุด คือ เห็ดหลินจือสีแดง ซึ่งมีงานวิจัยต่างๆ พบว่ามีสารโพลีแซคคาไรด์มากที่สุดในบรรดาเห็ดหลินจือทั้งหมด
ปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ เห็ดหลินจือออกมาจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก การเลือกผลิตภัณฑ์ เห็ดหลินจือแดงควรศึกษาตั้งแต่วิธีการเพาะปลูก ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญ เพราะการจะได้เห็ดหลินจือที่มีคุณภาพที่ดีนั้น ตัวเห็ดหลินจือเอง จะต้องได้รับการเพาะเลี้ยงในสภาวะที่เหมาะสม ทั้งในเรื่องความชื้น แสงสว่าง และสารอาหารที่ได้รับ ส่วนขั้นตอนการแปรรูป ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญ เพราะถือเป็นกระบวนการที่จะสกัดสารโพลีแซคคาไรด์จากตัวเห็ดเองออกมาให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้การบรรจุภัณฑ์ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องให้ความสนใจไม่แพ้กัน ควรเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถกันความชื้นได้ดี เพราะว่าความชื้นจะทำให้เห็ดหลินจือขึ้นราได้ เนื่องจากเห็ดหลินจือค่อนข้างไวต่อความชื้น
DAXIN เห็ดหลินจือแดงสกัดเจ้าแรกของเมืองไทย
สรรพคุณของเห็ดหลินจือช่วยบำรุงตับ และรักษาโรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ แต่มีรายงานทางการแพทย์หลายกรณี ว่า ส่งผลให้ตับอักเสบได้ โดยเฉพาะผู้ผลิตและปลูกโดยไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรมเคมียาตะวันออกโบราณอันลี้ลับของการใช้เห็ดหลินจือเป็นแกนดูดซับตัวยาอื่นในการบำรุงตับที่แท้จริงกว่า 4000ปีในภูมิปัญญาตะวันออก ดังนั้นแพทย์โรคเบาหวานจึงพบผู้ป่วยเป็นโรคตับอยู่บ่อยครั้งในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับประทานเห็ดหลินจือยี่ห้อที่มีสถิติลดเบาหวานได้สูง และควรระมัดระวังการใช้เป็นอย่างมากในผู้ป่วยที่เป็นไวรัสตับอักเสบที่มีการติดต่อทางน้ำลาย ทางที่ดีผู้รับประทานควรตรวจเลือดหาไวรัสตับอักเสบก่อนรับประทาน หรือไปบริจาคเลือดบ่อยๆ แล้วขอดูผลเลือด
ประโยชน์ของเห็ดหลินจือ สรรพคุณของเห็ดหลินจือเห็ดหลินจือสรรพคุณใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สีหน้าแจ่มใส ช่วยบำรุงและรักษาสายตา สรรพคุณเห็ดหลินจือใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยทำให้อายุยืนยาว ช่วยชะลอแก่ ชะลอวัย ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรง ช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ให้พลังชีวิตมากขึ้น ช่วยส่งเสริมระบบการไหลเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น ช่วยทำให้ความจำดีขึ้น ช่วยผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้นอนหลับได้สนิท ช่วยทำให้ประสาทสัมผัสต่างๆ ดีขึ้น สรรพคุณช่วยรักษาและต่อต้านมะเร็ง โดยส่งเสริมภูมิคุ้มกัน กระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวสร้างสารต้านมะเร็ ช่วยแก้พิษจากรังสี คีโม เช่น เม็ดเลือดขาวต่ำจากคีโม ท้องเสียอักเสบจากการฉายรังสี อาการปวดจากพิษบาดแผล ช่วยลดความดันโลหิตและรักษาโรคความดันโลหิตสูง ช่วยปรับความดันโลหิตทั้งสูงและต่ำให้สมดุล ช่วยรักษาโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองและหัวใจอุดตัน ป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาต ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคหมอนรองกระดูกแตกกดทับเส้นประสาทให้ทุเลายิ่งขึ้น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยควบคุมอาการเบาหวาน ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ หอบหืด ช่วยรักษาโรคประสาท สรรพคุณของเห็ดหลินจือช่วยบำรุงตับ และรักษาโรคตับ ตับแข็ง ตับอักเสบ เห็ดหลินจือรักษาโรคไตเรื้อรังบางชนิด โดยช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพการทำงานของไตให้ดีขึ้น ประโยชน์ของเห็ดหลินจือช่วยรักษาโรคลมบ้าหมู ช่วยแก้อาการอาหารเป็นพิษ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ประโยชน์เห็ดหลินจือช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร ช่วยแก้อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อ ประโยชน์ของเห็ดหลินจือช่วยรักษาโรคเกาต์ ช่วยสลายใยแผลเป็น หรือพังผืดหดยืด ทำให้ในแผลเป็นอ่อนนิ่มและหดตัวเล็กลง ช่วยยับยั้งเชื้อไวรัส อย่าง ไวรัสเอดส์ อีสุกอีใส งูสวัด ช่วยรักษาโรคลูปัส อีริทีมาโตซัส ทั่วร่าง (SLE) หรือโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ ช่วยแก้อาการป่วยบนที่สูง เช่น อาการหูอื้อ ช่วยรักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากการขาดออกซิเจน เช่น ถุงลมโป่งพอง หัวใจหล้มเหลว เส้นเลือดหัวใจตีบ ช่วยแก้อาการปวดประจำเดือน ช่วยแก้ปัญหาภาวะมีบุตรยาก ช่วยป้องกันการเสื่อมสรรถภาพทางเพศ เห็ดหลินจือจัดเป็นสเตียรอยด์ธรรมชาติ ซึ่งไม่มีสารพิษหรือผลข้างเคียงเหมือนกับสเตรียรอยด์สังเคราะห์

ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

ติดต่อเรา

ผลงานวิจัยสปอร์(ราก)และดอกเห็ดหลินจือของเมืองไทย

ผลงานวิจัยเพื่อสังคม

เห็ดหลินจือ จากงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์

รองศาสตราจารย์ ดร. นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ 
ภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลเห็ดหลินจือ [Ganoderma lucidum (Fr.) Karst.] หรือที่รู้จักกันดีในประเทศไทย “เห็ดหมื่นปี เห็ดจวักงู” ชื่ออังกฤษ “Lacquered mushroom” ชื่อญี่ปุ่น “Mannantake” เห็ดหลินจือ จัดเป็นราชาแห่งสมุนไพรจีน ที่มีการใช้มานานกว่า 4,000 ปี เป็นยาอายุวัฒนะและรักษาโรคต่าง ๆ ในเภสัชตำรับของสาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย บรรเทาอาการอ่อนเพลีย แก้หลอดลมอักเสบเรื้อรัง รักษาโรคหัวใจ และช่วยให้นอนหลับ
(1)  มีรายงานการศึกษาทางคลินิกพบว่า เห็ดหลินจือมีผลกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยมะเร็งปอด
(2) ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่
(3) และผู้ป่วยมะเร็งขั้นลุกลาม
(4) มีฤทธิ์ต้านปวดและมีความปลอดภัยในการใช้ในผู้ป่วยโรค rheumatoid arthritis
(5) รักษาโรค neurasthenia
(6) โรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง
(7,8) อาการปวดหลังจากการติดเชื้องูสวัด
(9)  นอกจากนี้ยังพบว่าเห็ดหลินจือมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยามากมาย เช่น ฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
(10-13)  ฤทธิ์ต้านเนื้องอกและมะเร็ง
(10,14-16)  ฤทธิ์ป้องกันเส้นประสาทเสื่อม
(17-20)  ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด
(21-22) ฤทธิ์ลดไขมันในเลือด
(23-24) ฤทธิ์ต้านออกซิเดชัน
(25-27) ฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti-inflammation)
(28-29) เป็นต้น ซึ่งสารสำคัญคือ สารกลุ่ม polysaccharides(10,11,13) สารกลุ่ม triterpenoids
(30-33) สารกลุ่ม sterols
(34-36) สารกลุ่ม fatty acids
(37) สารกลุ่มโปรตีน
(38-41) เป็นต้น ซึ่งสารสำคัญดังกล่าวจะพบได้ในส่วนสปอร์มากกว่าส่วนดอก
(42) และสปอร์ที่กะเทาะผนังหุ้มมีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและต้านมะเร็งได้ดีกว่าสปอร์ที่ไม่กะเทาะผนังหุ้ม และส่วนดอก
(43-45)  มีการศึกษาเกี่ยวกับพิษวิทยาของเห็ดหลินจือทั้งพิษแบบเฉียบพลันและพิษแบบเรื้อรังพบว่ามีความเป็นพิษต่ำมาก และมีความปลอดภัยสำหรับการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน

ประเทศไทยมีการปลูกเห็ดหลินจือในเชิงพาณิชย์มาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในรูปดอกเห็ดหั่นเป็นแผ่น น้ำเห็ดหลินจือ เครื่องดื่มชาเห็ดหลินจือ กาแฟเห็ดหลินจือ เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่ยังไม่มีการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทั้งสรรพคุณในการรักษาโรคภัยต่าง ๆ หรือการศึกษาการเพาะปลูกตามหลักเกณฑ์ที่ดีในการเพาะปลูก (Good agricultural Practice; GAP) หรือการเก็บสปอร์เห็ดหลินจือมาใช้ประโยชน์ เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้เนื่องจากขาดการประสานงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีองค์ความรู้แต่ไม่มีการบูรณาการในการศึกษาวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง
ปี 2551-2554 สถาบันการแพทย์แผนไทย-จีน เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นองค์หลักในการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ได้แก่ โครงการพิเศษสวนเกษตรเมืองงาย ในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สถาบันบริการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คณะแพทยศาสตร์ และ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล และ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการวิจัยและพัฒนาเห็ดหลินจือตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงการใช้ประโยชน์  คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เข้าร่วมโครงการฯ เป็นคณะทำงานการวิจัยเห็ดหลินจือและสปอร์เห็ดหลินจือในระดับพรีคลินิก และคณะทำงานการพัฒนาผลงานการวิจัยเห็ดหลินจือและสปอร์เห็ดหลินจือสู่การใช้ประโยชน์
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ศึกษา 
“คุณภาพและปริมาณสารสำคัญของดอกเห็ดและสปอร์เห็ดหลินจือที่ปลูกในประเทศไทย”(46)  โดยตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารสำคัญกลุ่ม terpenoids(47) และสารกลุ่ม polysaccharides(48,49)   การศึกษานี้จะเป็นข้อมูลบ่งชี้พันธุ์เห็ดหลินจือที่เหมาะสมในการปลูกในประเทศไทย อายุในการเก็บเกี่ยวสปอร์(ราก)และดอกเห็ด ชนิดของท่อนไม้ที่เหมาะสมในการเพาะเลี้ยงเห็ด และและได้พิสูจน์ให้เห็นว่าสปอร์(ราก)เห็ดหลินจือ ก่อนนำไปใช้ทางยาจะต้องกะเทาะผนังหุ้ม(50)  ผลการศึกษาคุณภาพและปริมาณสารสำคัญของดอกเห็ดและสปอร์(ราก)เห็ดหลินจือพันธุ์ MG1, MG2, MG5 พบว่า ระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมคือ 110 วัน และพันธุ์เห็ดที่มีปริมาณสารกลุ่ม polysaccharides สูงคือ พันธุ์ MG2 โดยพบในสปอร์(ราก)ที่กระเทาะผนังหุ้ม (4.77%) มากกว่าดอกเห็ด (3.06%) ส่วนพันธุ์ที่มีปริมาณสารกลุ่ม triterpenoids สูง คือ พันธุ์ MG5 โดยพบในก้านดอก (0.55%) มากที่สุด รองลงมาคือดอกเห็ด (0.40%) และสปอร์ (0.27%) ตามลำดับ และพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมในการเพาะเลี้ยงเห็ด คือ ไม้ลำไย และไม้สะเดา และงานวิจัยนี้ได้พิสูจน์ว่าสปอร์ที่กะเทาะผนังหุ้มมีสารสำคัญและฤทธิ์ทางยาดีกว่าสปอร์ที่ไม่กะเทาะผนังหุ้ม ทั้งนี้เพราะว่าผนังหุ้มสปอร์มีผนังหนา 2 ชั้น ผนังชั้นนอกเรียบ ผนังชั้นในยื่นคล้ายหนามไปชนผนังชั้นนอก ซึ่งผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าตัวทำละลายแอลกอฮอล์ หรือ dichloromethane ไม่สามารถสกัดสารสำคัญกลุ่ม triterpenoids ออกจากสปอร์เห็ดหลินจือที่ไม่กะเทาะผนังหุ้ม แต่การต้มสปอร์ที่ไม่กะเทาะผนังหุ้มด้วยน้ำจะสกัดสารกลุ่ม polysaccharides ได้บ้าง แต่ปริมาณน้อยกว่าสปอร์ที่กะเทาะผนังหุ้ม นอกจากนี้ในสภาวะที่เป็นกรด หรือเป็นด่าง เลียนแบบสภาวะของกระเพาะและลำไส้ ตามลำดับ ก็ไม่สามารถทำลายผนังหุ้มของสปอร์ได้ ซึ่งพิสูจน์ได้จากการศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์อิเลกตรอน และ TLC chromatogram ซึ่งจะสอดคล้องกับกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลศิริราชพยาบาล เมื่อผู้ป่วยคนหนึ่งที่รับประทานผงเห็ดหลินจือแล้วมีอาการท้องเสีย เมื่อตรวจอุจจาระพบว่ามีสปอร์เห็ดหลินจือที่มีขนาดและรูปร่างคล้ายกับไข่พยาธิ ซึ่งอาจจะทำให้เข้าใจผิดได้ว่าอาการท้องเสียเกิดจากพยาธิ หลังจากหยุดการรับประทานผงเห็ดหลินจือ อาการต่าง ๆ ก็ดีขึ้น(51) กรณีศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการรับประทานสปอร์เห็ดหลินจือที่ไม่กะเทาะผนังหุ้ม ร่างกายคนไม่สามารถย่อยผนังหุ้มได้ ทำให้จึงยังคงพบสปอร์ในอุจจาระ ฉะนั้นการรับประทานสปอร์เห็ดหลินจือจึงต้องทำการกะเทาะผนังหุ้มก่อน เพื่อให้สารสำคัญถูกสกัดออกจากสปอร์และดูดซึมเข้าร่างกายได้ ซึ่งจะมีคุณค่าทางยาตามรายงานการวิจัยทางคลินิกหรือพรีคลินิก

ติดต่อเรา

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ดิลูท ดีท็อก บล็อก & เบิร์น จาก DAXIN

ดิลูท ดีท็อก บล็อก & เบิร์น จาก DAXIN
ดีลูท DIC Nasron

นอกจากดิลูทจะสามารถดีท็อกของเสียออกจากร่างกายได้แล้ว ยังมีคุณสมบัติ อื่นๆ เช่นดักไขมัน และเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี เรามาดูกันนะคะว่ามีส่วนประกอบอะไร และดีอย่างไร

สรรพคุณ
- ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก
- การสนับสนุนการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด รักษาระดับของคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์
- คืนความอ่อนเยาว์ ของผิวหนังและริ้วรอย ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและกระตุ้นคอลลาเจน
- ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์อะไมเลสและ ไลเปส, ทำให้ร่างกายไม่สะสมคาร์โบไฮเดรตและไขมันในส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายของคุณแล้วให้ร่างกายของคุณในรูปทรงที่ดี
- เพิ่มขึ้นดักไขมันในกระเพาะอาหารโดยใช้เทคโนโลยีพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดปริมาณของไขมันดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
- ในการปรับปรุงและการเผาผลาญเพิ่มขึ้นที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณเผาผลาญไขมัน
- มีเส้นใยอาหารสูงช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มนาน
- มี Prebiotic ซึ่งจะช่วยในการขับถ่ายของเสียในร่างกาย ทำให้ร่างกายของคุณมีสุขภาพดี
- มีคอลลาเจนซึ่งจะช่วยในการดูแลผิว เพื่อชะลอการเกิดริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวของคุณเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ


ติดต่อเรา

สรรพคุณเห็ดหลินจือ กับอวัยวะต่างๆ

dic ลดถึงวันที่ 2/11/2558
สรรพคุณเห็ดหลินจือ กับอวัยวะต่างๆ
เห็ดหลินจือแดง DAXIN
เห็ดหลินจือแดงสกัด 100% เจ้าแรกของเมืองไทย
เห็ดหลินจือที่มียอดขายอันดับ 1 ของประเทศ

สรรพคุณเห็ดหลินจือ มีผลกับอวัยวะต่างๆ อย่างไร
เกี่ยวกับม้าม
• ระงับประสาท สามารถผ่อนคลายประสาทที่ตึงเครียด
• มีสรรพคุณทำให้จิตใจสงบและระงับประสาท
• ป้องกันเนื้อเยื่อในกระเพาะแตก
• ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก
• รักษาโรคกรกระเพาะเรื้อรัง โรคท้องร่วง ท้องผูก และลดกรด
• ปรับปรุงประสิทธิภาพของลำไส้ และกระเพาะอาหาร
• รักษาโรคท้องร่วง ท้องผูก และลดกรดในกระเพาะที่มากเกินไป
เกี่ยวกับปอด
• เห็ดหลินจือมีสรรพคุณในการระงับอาการไอ ขับเสมหะ ลดอาการไอหอบ ไอหืด
• ทำให้เนื้อเยื่อในปอดเกิดขึ้นใหม่
• ป้องกันการแพ้อากาศจึงสามารถรักษาโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และอาการหอบหืด และอาการ ภูมิแพ้
เกี่ยวกับตับ
• เห็ดหลินจือเพิ่มประสิทธิภาพในการขับพิษของเซลล์ตับ
• เห็ดหลินจือป้องกันตับถูกทำลาย
• สร้างและซ่อมแซมเซลล์ตับใหม่ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ
เกี่ยวกับไต
• เห็ดหลินจือมีสรรพคุณบำรุงไต ขับปัสสาวะ ทำให้ไตแข็งแรง รักษาอาการขับปัสสาวะบ่อยในเวลากลางคืน
• ไตมีความเกี่ยวข้องกับหู ดังนั้นยังรักษาอาการหูอื้อ หูหนวก น้ำในหูไม่เท่ากัน
• ทำให้นอนหลับสบาย รักษาโรคประสาทอ่อนๆ ได้อีกด้วย
เกี่ยวกับตา
• หลินจือช่วยทำให้สายตาดีขึ้น
• ทำให้เซลล์ประสาทตาต่างๆทำงานไม่บกพร่อง
เกี่ยวกับผิวพรรณ ใบหน้า และผม
• ช่วยให้ผิวพรรณดี
• ใบหน้าขาวไม่ดำง่าย
• ทำให้ผิวหนังสามารถต้านรังสี UV ได้มากขึ้น
• ต่อต้านมะเร็งผิวหนัง
• ทำให้เลือดไหลเวียนดี
• ช่วยชะลอความแก่
• ช่วยขจัด สิว ฝ้า กระต่างๆ
เกี่ยวกับสมอง ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกาย สมองควบคุมพฤติกรรม ร่างกาย และความสมดุล
• หลินจือ ช่วยให้ ออกซิเจนไปเลี้งสมองได้มากขึ้น
• หลินจือ ช่วยบำรุงเซลล์ประสาท
• หลินจือ ช่วยให้การเต้นของหัวใจดีขึ้น
• หลินจือ ช่วยปรับความดันโลหิตได้สมดุล
• หลินจือ ช่วยปรับสมดุลของ ของเหลวในร่างกาย
• ทำให้มนุษย์มีความจำดีขึ้น
• ช่วยปรับการควบคุมอารมณ์ให้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพดีขึ้น
• ช่วยผู้ป่วยที่ใช้ยากล่อมประสาท ลดลง
เกี่ยวกับหัวใจ
ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดหัวใจ
ปรับการเต้นผิดปรกติของหัวใจ
ป้องกันการขาดเลือดของกล้ามเนื้อหัวใจ
เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับกล้ามเนื้อหัวใจ
ลดไขมันในเลือด ( คลอเลสเตอรอล ) จึงสามารถ รักษาโรคต่อไปนี้
- รักษาโรคหลอดเลือด
- โรคไขมันในโลหิตสูง
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคเส้นเลือดหัวใจ อื่นๆ ได้อีกด้วย



วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

บริจาคเห็ดหลินจือฟรี

ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์จาก กองทุน DIC

DIC จะทำการบริจาคเห็ดหลินจือ(ฟรี) ฟรี ให้ผู้ป่วยยากไร้ 1 ราย

หากเพื่อนๆ รู้จักหรืออยากแนะนำผู้ป่วยยากไร้ให้กับ DIC

1.แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับโรค ระยะเวลาที่ป่วย อายุผู้ป่วยและสถามภาพความยากไร้

2.แจ้งเบอรติดต่อของญาติหรือของผู้ป่วย

3.ถ้าเป็นผู้ป่วยยากไร้ใน จังหวัดปัตตานี จะรับพิจารณาเป็นอันดับต้นๆ

4.ทีมงานจะพิจารณาตามหลักการและเหตุผล

5.ผู้ป่วยที่ผ่านการพิจรณา จะไร้รับรับเห็นหลินจือฟรีจนกว่าจะหายจากโรคที่ป่วย

จึงแจ้งมาเพื่อทราบ
ขอบคุณครับ
Nasron DIC (ผู้ดูแลกองทุน)

ติดต่อเรา

วันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ตะลึง!!! ผลการทานเห็ดลินจือกับโรคใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก (Bell’s palsy)


ผลการทานเห็ดหลินจือแดงสกัดDAXIN
เห็ดหลินจือแดงสกัด 100% รากและกอด 6 สายพันธุ์ เจ้าแรกของเมืองไทย
โรคใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก (Bell’s palsy) รศ.นพ.ก้องเกียรติ กูณฑ์กันทรากร อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง
     ผู้อ่านหลายท่านคงเคยได้ยินข่าวเรื่องดารานักแสดงหลายคนมีอาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก ฟังดูน่ากลัวแถมยังมีผลอย่างมากต่อรูปลักษณ์ที่เป็นส่วนสำคัญต่อบุคลิก การทำงาน และการดำเนินชีวิตประจำวัน
โดยบางคนอาจกังวลว่า อาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกนี้เป็นอาการรุนแรงของโรคหลอดเลือดสมองหรือไม่ หรือถ้าเป็นแล้วจะหายเป็นปกติหรือไม่
ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับโรคใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก หรือที่เรียกว่าโรคเบลล์พัลซี่ (Bell’s palsy) กัน
     โรคใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก หรือ Bell’s palsy นี้ได้ถูกบรรยายครั้งแรกโดยเซอร์ชาร์ลส์ เบลล์ แพทย์ชาวสกอตแลนด์ในปี พ.ศ.2372 และพบว่า เกิดจากรอยโรคที่เส้นประสาทสมองที่ 7 ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า น่าแปลกที่ว่า ผู้ป่วยมักเป็นที่ใบหน้าข้างขวามากกว่าข้างซ้ายเล็กน้อย โรคนี้พบได้บ่อยมากคือในช่วงชีวิตหนึ่งของคนทั่วไปมีโอกาสเกิดโรคได้ถึงร้อยละ 1
กลุ่มเสี่ยง
     สำหรับคนทั่วไปจะมีความเสี่ยงสูงตามอายุที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หญิงตั้งครรภ์โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3 และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมักมีปัญหาด้านการอุดตันของหลอดเลือดขนาดเล็กที่เส้นประสาท ทำให้เส้นประสาทตายจากการขาดเลือด และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อใหม่หรือการกำเริบของไวรัสในร่างกาย
สาเหตุ
     ผู้ป่วยโรคใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกเกือบทั้งหมดไม่ได้มีสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก และสาเหตุในผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ส่วนหนึ่งมีความสัมพันธ์กับการติดเชื้อเริม (Herpes simplex virus type1) หรือไวรัสอื่นๆ ที่เส้นประสาทสมองที่ 7 เช่น ไวรัสโรคสุกใส ไวรัสเอปสไตน์บาร์ หรือเชื้อแบคทีเรีย เช่น โรคไลม์ ซึ่งการติดเชื้อข้างต้นนี้อาจเป็นการติดเชื้อใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น หรือเป็นการกำเริบจากการติดเชื้อที่แฝงอยู่เดิมในร่างกายก็ได้ เมื่อร่างกายอ่อนแรงลง ไม่ว่าจะมาจากปัจจัยความเครียดทางจิตใจ หรือจากสิ่งแวดล้อมภายนอก หรือโรคทางกายอื่นๆ ก็จะทำให้เกิดโรคขึ้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงมักไม่ทราบสาเหตุที่จำเพาะของโรคนี้

      นอกจากนั้นแล้ว ความผิดปกติของเส้นประสาทสมองที่ 7 ที่ทำให้เกิดอาการไม่ต่างจาก Bell’s palsy ยังเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้เช่นกัน เช่น อุบัติเหตุต่อเส้นประสาทโดยตรง การติดเชื้อบริเวณข้างเคียง หูชั้นในอักเสบติดเชื้อ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

อาการ
     • อาการเด่นที่มักนำผู้ป่วยมาพบแพทย์คือ ผู้ป่วยมักมีอาการอ่อนแรง หรือที่เรียกว่าอัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้าครึ่งซีก โดยเกิดอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือข้ามคืน
     • ผู้ป่วยมักปิดตาไม่สนิท ทำให้เกิดการระคายเคืองตาได้ง่าย มีน้ำตาไหลมากขึ้น
     • เนื่องจากเส้นประสาทสมองที่ 7 นี้มีแขนงเล็กๆ ไปที่กล้ามเนื้อของหูชั้นกลาง บางรายจึงอาจมีอาการปวดบริเวณหลังหูร่วมด้วย เช่น รู้สึกว่ามีเสียงดังหรือก้องขึ้นในหูด้านเดียวกัน
     • บางรายอาจมีการรับรสที่ผิดปกติร่วมด้วย แต่เป็นส่วนน้อย
การวินิจฉัย
     แพทย์จะซักประวัติถึงอาการและระยะเวลาที่เกิดขึ้น อาการร่วมอื่น สาเหตุที่อาจเป็นไปได้ และตรวจร่างกาย เพื่อยืนยันถึงรอยโรคที่เส้นประสาทสมองนี้ และแยกโรคอื่นที่มีลักษณะคล้ายกันออกไป

      โดยรูปแบบของอาการใบหน้าอ่อนแรงในโรคนี้จะมีลักษณะพิเศษ ซึ่งแตกต่างจากความผิดปกติของใบหน้าอ่อนแรงที่เกิดจากเหตุโรคในสมองคือ กลุ่มกล้ามเนื้อใบหน้าทั้งครึ่งซีกที่รวมถึงกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผาก (ที่ใช้ยักคิ้ว/ย่นหน้าผาก) และกลุ่มกล้ามเนื้อส่วนล่างของใบหน้า (ที่ใช้แสยะยิ้ม แยกเขี้ยว เม้มปาก) จะมีความผิดปกติทั้งคู่ ผู้ป่วยจึงดูมีลักษณะว่าใบหน้าด้านนั้นดูห้อยลง ปิดตาไม่สนิท ย่นหน้าผากไม่ได้ ดื่มน้ำแล้วน้ำซึมจากมุมปาก หรือเมื่อให้ผู้ป่วยยิงฟัน หน้าจะถูกดึงไปด้านตรงข้าม ทำให้ดูเหมือนว่าหน้าเบี้ยวด้านตรงข้าม
โดยทั่วไป แพทย์จึงมักให้การวินิจฉัยโรคนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการตรวจเพิ่มเติมพิเศษ ส่วนในรายที่สงสัยว่ามีปัจจัยเสี่ยงสูงข้างต้น เช่น เป็นโรคเบาหวาน และเป็นผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ ก็ควรตรวจหาโรคเบาหวาน โรคทางภูมิคุ้มกันผิดปกติ ตรวจเอกซเรย์ หรือภาพคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง ฯลฯ

ผลการทานเห็ดหลินจือแดงสกัดDAXIN
Ninng Surang

Ninng Surang1
*** ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคล


วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2558

การบริหารขยะเพื่อเพิ่มมูลค่า

สวัสดีครับเพื่อนๆ
ผม Nasron นะครับ
ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องแผน
เราลองมาดูสิ่งรอบๆ ตัวเราก่อนนะครับ
ว่าพอมีอะไรที่จะสร้างมูลค่าได้บ้างนะครับ
เริ่มจากการตื่นนอน
จนถึงเราเข้านอนอีกครั้งของทุกๆ วันนะครับ
แน่นอนครับ
ไม่ว่าจะเป็นแปรงฟัน
ยาสีฟัน
โฟมล้างหน้า
สบู่อาบน้ำ
แชมพู
แฟ็บซักผ้า
เราเอาสิ่งที่เหลือใช้มาแชร์ความคิดกันดูนะครับ
ใช่ครับ
ขยะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ที่มีกันทุกบ้าน
สิ่งที่จะทำให้มีมูลค่าก็ครับ
การรีไซเคิล
ทำอะไรที่น่าสนใจของตลาด
บางคนอาจจะบอกว่า บ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บ้าสุดๆ
ใครจะมีเวลาถึงขนาดนั้น
บางวัน.....
แค่แปรงฟันก็หมดเวลาแล้ว
ผมเองก็คิดไม่ต่างจากเพื่อนๆ หรอกครับ



ทีนี้เราลองวางระบบแบบเซเว่นดูนะครับ
ทุกๆ เราช่วยๆ กันเอา(ขยะเข้าระบบ)
สมมุติว่าเราเคยขายขยะ ได้ 100 บาท
แต่วันนี้เรายอมจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ให้กับระบบ 1 บาท
เลือกระบบที่มั่นคง ยุติธรรม และมีคุณธรรมให้มากๆๆๆๆที่สุด
วันนี้เราได้เงินจากการขายขยะ 99 บาท
พร้อม ๆ กับเราได้ค้าลิขสิทธ์
จากคนที่มาจดลงทะเบียนกับเราหรือลงทะเบียนกับทีมงานของเรา 1 พันคน
ลองตอบสิครับ
ว่าเราจะมีรายได้กี่บาทต่อวันครับ
1099 บาทครับ
ทุกๆ ที่มีการใช้สินค้า
นั้นคือ...
รายได้เข้าทุกๆ วันครับ
โดยที่ไม่ต้องขายสินค้า
แค่คุยเรื่องขยะ การสร้างมูลค่าของขยะครับ
ทีนี้เรามาดูแผนของแด๊กซินนะครับ
เริ่มจากไหนดีครับ
...
...
การลงทะเบียนสมาชิกฟรีตลอดชีพ!!!
ไม่ต้องต่ออายุ
ไม่ถามเรื่องสุขภาพ
สมัครได้เลยครับ
แต่ซื้อชุดทดลอง 700 บาทครับ
ได้เห็นหลินจือเจ้าแรกของเมือง เห็ดหลินจือที่มียอดขายอันดับ 1 ของประเทศ
1 ชุด 640 บาท
กาแฟคุณภาพระดับโลก 10 ซอง 150 บาท
กระเป๋าและเอกสาร  230 บาม
รับไปเลยรับ
คะแนนสะสม 150 คะแนนครับ
เอาข้อคิดกลับบ้านไป 1 ข้อ ครับ
"วันนี้ฉันเซ็นสัญญาพันทมิตรกับบริษัทที่มั่นคงถึง 20 กว่าปี
เพื่อที่จะสร้างมูลค่าขยะภายในบ้านของฉัน"
เริ่มเปลี่ยนความคิดจากจุดง่ายๆ ก่อนนะครับ
แผนการตลาดที่เหลือ
ให้คุณหมอสมานต่อนะครับ
ขอบคุณครับ

วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เห็ดหลินจือแดงมีการนิยมเป็นอย่างสูงในปัจจุบันเห็ดหลินจือแด๊กซิน ยอดขายอันดับ 1 ของเมืองไทย



ในปัจจุบันความเครียดอาจส่งผลกระทบกับการนอนหลับพักผ่อนของคุณ สมุนไพรอย่างหนึ่งที่ช่วยให้หลับสนิทได้อย่างยาวนานขึ้นคือ เห็ดหลินจือ สรรพคุณอย่างหนึ่งของเห็ดหลินจือนั้นช่วยให้หลับสนิทได้อย่างต่อเนื่อง ร่างกายจึงพักผ่อนได้ อย่างเต็มที่ ตื่นขึ้นมาจึงทำให้ร่าเริงแจ่มใส อารมณ์ดี มีสมาธิมากขึ้นพร้อมที่จะลุยงานหนักได้อย่างเต็มที่ เห็ดหลินจือยังช่วยบำรุงประสาทส่วนที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังป้องกันโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้อีกทางหนึ่งด้วย
cr : www.maxelement.co.th


ติดต่อเรา

http://line.me/ti/p/sP-pAVK3oJ